ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1605 วรรคแรก บัญญัติว่า “ทายาทคนใดยักย้าย หรือปิดบังทรัพย์มรดกเท่าส่วนที่ตนจะได้หรือมากกว่านั้นโดยฉ้อฉลหรือรู้อยู่ว่า ตนทำให้เสื่อมประโยชน์ของทายาทคนอื่นทายาทคนนั้นต้องถูกกำจัดมิให้ได้มรดกเลย แต่ถ้าได้ยักย้ายหรือปิดบังทรัพย์มรดกน้อยกว่าส่วนที่ตนจะได้ทายาทคนนั้นต้องถูกกำจัดมิให้ได้มรดกเฉพาะส่วนที่ได้ยักย้ายหรือปิดบังไว้นั้น”
จากกฏหมายข้างต้น หมายถึงว่า ถ้าทายาทคนใด เอาทรัพย์มรดกไปซ่อน ไปแอบขาย แอบให้คนอื่น โดยโกงทายาทคนอื่นที่มีสิทธิได้ หรือรู้อยู่ว่าทรัพย์นั้นเป็นมรดก ที่พี่น้องคนอื่นต้องมีสิทธิได้รับ ถือว่าทายาทคนนั้นยักย้าย หรือปิดบังทรัพย์มรดกแล้ว
ประเด็นต่อมา การยักย้ายหรือปิดบังทรัพย์มรดกนั้น ผลในทางกฏหมายจะเป็นอย่างไร ต้องพิจารณาจากทรัพย์มรดกทั้งหมดที่มีอยู่ แยกได้ 2 แบบคือ
1. ถ้าทายาทคนนั้นยักย้าย หรือปิดบัง “มากกว่า” ส่วนที่ตนจะได้ กรณีนี้ ต้องถูกกำจัดไม่ให้ได้รับมรดกทั้งหมด ยกตัวอย่าง เจ้ามรดก มีทายาท 3 คน มีทรัพย์สินคือ ที่ดิน 1 แปลง มูลค่า 1 ล้านบาท เงินฝาก 5 ล้านบาท เท่ากับว่า ทรัพย์มรดกมีทั้งหมด 6 ล้านบาท ต้องแบ่งกันระหว่างทายาท คนละ 2 ล้านบาท
แต่ ! ทายาทคนหนึ่ง แอบถอนเงินไปจากบัญชี 3 ล้านบาท มากกว่าส่วนที่ตนจะได้ คือ 2 ล้านบาท ดังนั้น ทายาทคนนั้นต้องถูกกำจัดไม่ให้ได้มรดกเลยสักบาทเดียว เท่ากับว่าทายาทอีกสองคน จะได้รับมรดกคนละ 3 ล้านบาท
2. หากเจ้ามรดกมีทรัพย์มรดกจำนวน 3 ล้านบาท และมีทายาท 3 คน ทายาทแต่ละคนจะมีสิทธิได้รับเงินคนละ 1 ล้านบาท หากทายาทคนนึง แอบถอนเงินออกไป 500,000 บาท ซึ่งน้อยกว่าส่วนที่จะได้ ทายาทคนนั้น ต้องถูกกำจัดไม่ให้ได้รับมรดกเพียงเท่านั้น คือ 500,000 บาท ซึ่งต้องนำไปแบ่งให้กับทายาทที่เหลือ เท่ากับว่า ทายาทคนที่เหลืออีกสองคนนั้น จะได้รับเงินคนละ 1,250,000 บาท ส่วนคนที่แอบถอนเงินออกไป จะได้รับเพียง 500,000 บาท
แต่ทั้งหมดที่กล่าวมานั้น เป็นกรณีที่ต้องฟ้องคดีต่อศาล และเข้าสู่การพิจารณาของศาลเท่านั้น




